บทที่1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญ
มะพร้าวแก้ว
เป็นขนมหวานของไทยชนิดหนึ่งที่นำมะพร้าวทึนทึกมาขูดเป็นเส้นแล้วนำไปกวนกับน้ำตาล
จนแห้งแล้วนำมาปั้นเป็นก้อนรอจนแห้งแล้วเก็บไว้รับประทาน
มะพร้าวเป็นวัตถุดิบที่เราสามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นของเราและในการทำสี
เราสามารถทำให้เป็นสีต่างๆได้ เช่น สีเขียวจากใบเตย สีม่วงจากดอกอัญชัน ฯลฯ
การทำมะพร้าวแก้วยังเป็นการอนุรักษ์ขนมไทย
ให้คนรุ่นหลังสืบทอดกันตลอดไป
วัตถุประสงค์
-เพื่ออนุรักษ์ขนมหวานไทย
-เพื่อสร้างรายได้ระหว่างเรียน
- เพื่อเป็นสื่อความรู้แก่ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการทำมะพร้าวแก้ว
- เพื่อฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม
-เพื่อฝึกการทำมะพร้าวแก้ว
-เพื่อศึกษาประวัติและวิธีทำขนมไทย
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
-
สามารถสร้างเป็นอาชีพได้
ขอบเขตการศึกษา
ศึกษาจากเว็บไซต์และสอบถามผู้รู้เกี่ยวกับการทำมะพร้าวแก้ว
บทที่2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประวัติการทำมะพร้าวแก้ว
มะพร้าวเป็นไม้ผลที่มีอยู่ทั่วไป สามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศสามารถกินได้ทั้งมะพร้าวอ่อน
น้ำมะพร้าว มะพร้าวแก่ กะทิ ....แต่ที่บ้านน้อย ตำบลเชียงคาน
อำเภอเชียงคานแปรรูปมะพร้าวเป็น มะพร้าวแก้วโดย...กลุ่มอาชีพสตรี
พ.ศ. 257 สตรีอาสาบ้านน้อยจำนวนหนึ่งได้รวมตัวกันเพื่อจะแสวงหาอาชีพเสริมเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว
จึงได้ประสานงานขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลยให้มาฝึกอบรม และฝึกสอนวิธีการทำขนมต่างๆ
การทำมะพร้าวแก้ว เพื่อนำไปจำหน่ายที่แก่งคุดคู้ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด
อาชีพการทำมะพร้าวแก้วจึงได้ ขยายวงไปอย่างกว้างขวางและพัฒนาจากการทำเป็นฝอยๆเป็นแผ่นแต่การประกอบอาชีพดังกล่าวยังเป็นการประกอบอาชีพ
ต่างคนต่างทำ ไม่ดำเนินการในรูปกลุ่ม
มะพร้าวเป็นไม้ผลที่มีอยู่ทั่วไป
สามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศสามารถกินได้ทั้งมะพร้าวอ่อน น้ำมะพร้าว มะพร้าวแก่
กะทิ
มะพร้าวแก้วเป็นขนมทำง่าย เก็บไว้ได้หลายวัน แต่งสีได้ต่าง ๆ กัน
ปริมาณของน้ำเชื่อมกับมะพร้าวขึ้น อยู่กับความอ่อนหรือแก่ของมะพร้าว
ถ้ามะพร้าวอ่อน จะดูดน้ำเชื่อมได้น้อย อาจต้องเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น
ถ้ามะพร้าวแก่จะดูดน้ำเชื่อมได้มากกว่า
มะพร้าวแก้ว หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเนื้อมะพร้าวที่มีความแก่พอเหมาะมาทำเป็นเส้นหรือเป็นแผ่นโดยไม่ให้ติดผิวสีน้ำตาล
ใส่ลงในน้ำเชื่อมที่อาจผสมส่วนประกอบอื่น
เช่น เกลือป่น น้ำลอยดอกมะลิ สีธรรมชาติ คนและให้ความร้อนจนน้ำเชื่อมข้นเหนียวและจับเนื้อมะพร้าวอย่างทั่วถึง แล้วผึ่งให้แห้ง
มะพร้าวแก้วเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทของหวานสำหรับรับประทานเล่น
เหมาะสำหรับทุกรุ่น ทุกวัย (ยกเว้นเด็กทารกแรกเกิด)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากทุกเทศกาลอย่างยิ่ง ซึ่งวัตถุดิบ
(มะพร้าว) มีให้ผลิตตลอดทุกฤดูกาล
คุณค่าทางโภชนาการ : เนื้อมะพร้าวสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด
หรือนำมาคั้นเอาน้ำกะทิประกอบอาหารคาวหวานได้หลากหลายชนิด
เนื้อมะพร้าวประกอบไปด้วยน้ำมันถึง 60–65% ในน้ำมันมีกรดไขมันหลายชนิด
เนื้อมะพร้าวหั่นฝอยใส่น้ำเคี่ยวหรือตากแห้ง แล้วเคี่ยวจะได้น้ำมันมะพร้าว
ส่วนน้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางอาหารสูง รสหวาน หอม ชุ่มคอ ชื่นใจ
ในน้ำมะพร้าว ยังมีน้ำตาล โปรตีน โซเดียม แคลเซียม โพแทสเซียม
ชื่อไทย มะพร้าว
ชื่อสามัญ Coconut
ชื่อวิทยาศาสตศ์ Cocos nucifera
Linn.
ชื่อวงศ์ PALMAE
ลักษณะโดยทั่วไป
มะพร้าวเป็นไม้ยืนต้นตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง
เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย
สรรพคุณทางยา
กะลา นำมาเผาให้เป็นถ่านดำ
แล้วนำมาบดเป็นผงละเอียด ผสมน้ำดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ
0.5-1 ช้อนชา แก้ปวดกระดูกและเส้นเอ็น
ดอก รสฝาดหวานหอม
เป็นยาแก้เจ็บคอ แก้ท้องเสีย แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ กล่อมเสมหะ บำรุงโลหิต
และแก้ปากเปื่อย
ราก รสฝาดหวานหอม
เป็นยาแก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ หรืออมบ้วนปากแก้เจ็บคอ
น้ำมันมะพร้าว
รสหวานเค็ม รับประทานเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ ใช้ทาบำรุงผม
หรือทาเป็นยาแก้กลากเกลื้อน ทาผิวหนังแตกแห้ง แก้โรคผิวหนังต่างๆ ทาแผลน้ำร้อนลวก
โดยการเอาน้ำมันมะพร้าวมา 1 ส่วน ใส่ในภาชนะคนพร้อมๆ กับเติมน้ำปูนใส
1 ส่วน โดยเติมทีละส่วนพร้อมกับคนไปด้วยจนเข้ากันดีใช้ทาบริเวณแผลบ่อยๆ
น้ำมะพร้าว รับประทานเป็นยาระบาย
แก้ท้องเสีย ขับปัสสาวะ แก้พิษ แก้กระหายน้ำ แก้นิ่ว แก้อาเจียนเป็นโลหิตและบวมน้ำ
นอกจากนี้ยังทำเป็นน้ำส้มสายชูใช้ประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pandanus
amaryllifolius Roxb.
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวลักษณะแตกกอเป็นพุ่มขนาดเล็ก
ลำต้นเป็นข้อ ใบออกเป็นพุ่มบริเวณปลายยอด เมื่อโตจะมีรากค้ำจุนช่วยพยุงลำต้นไว้ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด
ลักษณะใบยาวเรียวคล้ายใบหอก ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเป็นมัน
เส้นกลางใบเว้าลึกเป็นแอ่ง ถ้าดูด้านท้องใบจะเห็นเป็นรูปคล้ายกระดูกงูเรือ
ใบมีกลิ่นหอม
ส่วนที่ใช้ : ใบ
สรรพคุณ : ใบสด
- ตำพอกโรคผิวหนัง
- รักษาโรคหืด
- น้ำใบเตย ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น
- ใช้ผสมอาหาร แต่งกลิ่น ให้สีเขียวแต่งสีขนม
วิธีและปริมาณที่ใช้
:
1.
ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
ใช้ต้น 1 ต้น หรือราก
ครึ่งกำมือ ต้มกับน้ำดื่ม
2.
ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ
ใช้ใบสดไม่จำกัดผสมในอาหาร
ทำให้อาหารมีรสเย็นหอม
รับประทานแล้วทำให้หัวใจชุ่มชื่น
หรือเอาใบสดมาคั้นน้ำรับประทาน ครั้งละ 2-4
ช้อนแกง
3.
ใช้เป็นยาแก้เบาหวาน
ใช้ราก 1
กำมือ ต้มน้ำดื่ม เข้าเย็น
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Hibiscus sabdariffa Linn.
ชื่อสามัญ : Jamaican Sorel, Roselle
วงศ์ :
Malvaceae
ชื่ออื่น : กระเจี๊ยบ
กระเจี๊ยบเปรี้ยว ผักเก็งเค็ง
ส้มเก็งเค็ง ส้มตะเลงเครง ส้มปู
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง 50-180 ซม.
มีหลายพันธุ์ ลำต้นสีม่วงแดง ใบเดี่ยว รูปฝ่ามือ 3 หรือ 5
แฉก กว้างและยาวใกล้เคียงกัน 8-15 ซม. ดอกเดี่ยว
ออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีชมพูหรือเหลืองบริเวณกลางดอกสีม่วงแดง เกสรตัวผู้เชื่อมกันเป็นหลอด
ผลเป็นผลแห้ง แตกได้ มีกลีบเลี้ยงสีแดงฉ่ำน้ำหุ้มไว้
สรรพคุณ :
ในหลายประเทศเช่น อินเดีย เม็กซิโก
แอฟริกา กัวเตมาลา นำใบมาต้มน้ำดื่มเพื่อขับปัสสาวะ กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้
ลดไข้ ลดความดัน และลดความหนืดของเลือด ขับน้ำดี
กลีบเลี้ยงของดอก หรือกลีบที่เหลืออยู่ที่ผล เป็นยาลดไขมันในเส้นเลือด
และช่วยลดน้ำหนักด้วยลดความดันโลหิตได้โดยไม่มีผลร้ายแต่อย่างใด น้ำกระเจี๊ยบทำให้ความเหนียวข้นของเลือดลดลงช่วยรักษาโรคเส้นโลหิตแข็งเปราะได้ดี
น้ำกระเจี๊ยบยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เป็นการช่วยลดความดันอีกทางหนึ่ง ช่วยย่อยอาหาร
เพราะไม่เพิ่มการหลั่งของกรดในกระเพาะ
เพิ่มการหลั่งน้ำดีจากตับเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพราะมีกรดซีตริคอยู่ด้วย
ใบ แก้โรคพยาธิตัวจี๊ด
ยากัดเสมหะ แก้ไอ ขับเมือกมันในลำคอ ให้ลงสู่ทวารหนัก
ดอก แก้โรคนิ่วในไต
แก้โรคนิ่วในกระเพราะปัสสาวะ ขัดเบา ละลายไขมันในเส้นเลือด กัดเสมหะ
ขับเมือกในลำไส้ให้ลงสู่ทวารหนัก
ผล ลดไขมันในเส้นเลือด
แก้กระหายน้ำ รักษาแผลในกระเพาะ
เมล็ด บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง
แก้ดีพิการ ขับปัสสาวะ ลดไขมันในเส้นเลือด
นอกจากนี้ได้บ่งสรรพคุณโดยไม่ได้ระบุว่าใช้ส่วนใด
ดังนี้คือ แก้อ่อนเพลีย บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ แก้ดีพิการ แก้ปัสสาวะพิการ
แก้คอแห้งกระหายน้ำ แก้ความดันโลหิตสูง กัดเสมหะ แก้ไอ ขับเมือกมันในลำไส้
ลดไขมันในเลือด บำรุงโลหิต ลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้โรคเบาหวาน แก้เส้นเลือดตีบตัน
นอกจากใช้เดี่ยวๆ แล้ว ยังใช้ผสมในตำรับยาร่วมกับสมุนไพรอื่น
ใช้ถ่ายพยาธิตัวจี๊ด
คุณค่าด้านอาหาร
น้ำกระเจี๊ยบแดง
มีรสเปรี้ยว นำมาต้มกับน้ำ เติมน้ำตาล ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และช่วยป้องกันการจับตัวของไขมันในเส้นเลือดได้
และยังนำมาทำขนมเยลลี่ แยม หรือใช้เป็นสารแต่งสี ใบอ่อนของกระเจี๊ยบเป็นผักได้
หรือใช้แกงส้ม รสเปรี้ยวกำลังดี กระเจี๊ยบเปรี้ยวมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “ส้มพอเหมาะ” ในใบมี วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา
ส่วนกลีบเลี้ยงและกลีบดอก มีสารแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
น้ำกระเจี๊ยบแดงที่ได้สีแดงเข้ม สาร Anthocyanin นำไปแต่งสีอาหารตามต้องการ